แอป “ดูดเงิน” สร้างความหวาดผวาให้กับผู้คนในยุคดิจิทัลอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหาทางป้องกัน เพื่อดูแลคุ้มครองผู้บริโภคหลาย ๆ มาตรการด้วยกัน และที่สุดแล้ว ก็มีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมาบังคับใช้ ควบคู่ไปกับการยกระดับป้องกันภัยไซเบอร์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
แบงก์เพิ่มดีกรีป้องกันภัยไซเบอร์
โดยในส่วนของธนาคารนั้น “ผยง ศรีวณิช” ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เพราะพัฒนาการทางนวัตกรรมและภัยด้านต่าง ๆ ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งการยกระดับความปลอดภัยและการป้องกันได้อยู่ในแผนของคณะทำงานอยู่แล้ว
โดยมีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ (ITMX) ที่เป็นตัวกลางในการสร้างระบบที่เรียกว่า “Central Fraud Registry” ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางตรวจสอบธุรกรรมที่มีความเสี่ยง ภายใต้การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้การตรวจจับมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ฟาก “เอกสิทธิ์ พฤฒิพลากร” ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ และธนาคารดิจิทัล ธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ทยอยดำเนินการตามแผนมาตรการป้องกันภัยไซเบอร์ของ ธปท. เริ่มตั้งแต่มาตรการสแกนใบหน้าก่อนทำธุรกรรมตามวงเงินที่กำหนด ตั้งแต่ 5 หมื่นบาทต่อครั้ง และรวมกันไม่เกิน 2 แสนบาทต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอัพเกรดเวอร์ชั่นระบบปฏิบัติการทั้งในส่วนของ iOS และ Android
“แบงก์ได้ implement ตามแผนที่ ธปท.กำหนด ซึ่งจะช่วยป้องกันแอปดูดเงินได้มากขึ้น และมองไปข้างหน้าความเสียหายจะน้อยลง แต่เชื่อว่ามิจฉาชีพจะมีวิธีการใหม่ ๆ จึงต้องพัฒนาและยกระดับระบบต่อเนื่อง”
มี พ.ร.ก.ช่วยลดความเสียหาย
“ภิญโญ ตรีเพชราภรณ์” ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับและตรวจสอบความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลัง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 บังคับใช้ รวมถึงธนาคารพาณิชย์มีการพัฒนาระบบป้องกันการติดตั้งแอปปลอมบนโมบายแบงกิ้ง แม้ว่าจะมีการหลอกลวงให้ติดตั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ ขณะที่มาตรการสแกนใบหน้าก็มีส่วนช่วยในการอายัดบัญชีและระงับธุรกรรม
“ความเสียหายจากแอปดูดเงินมีแนวโน้มลดลง โดยในเดือน ก.ย.พบว่า จำนวนผู้เสียหายลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับต้นปี และมูลค่าความเสียหายลดลง 53% ซึ่งตัวเลข ณ เดือน ก.ย. 2566 จำนวนผู้เสียหายอยู่ที่ 1,300 ราย และมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 85 ล้านบาท คาดว่าความเสียหายน่าจะลดลง ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นตัวเลขของแบงก์ต่าง ๆ มีทิศทางลดลงหมด”
ขณะที่ตัวเลขอายัดเงิน หากเทียบก่อนจะมี พ.ร.ก. เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 พบว่า สัดส่วนการอายัดเงินอยู่ที่ 3.9% ของหมายที่มีการให้ธนาคารอายัด แต่ภายหลังจากมี พ.ร.ก. สัดส่วนการอายัดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 20.6% หรือสามารถอายัดเพิ่มขึ้น 5 เท่า
“การอายัดที่เพิ่มขึ้นจากราว 4% เป็น 20% น่าจะมาจาก 2 ส่วน คือ พ.ร.ก.ที่ทำให้เหยื่อสามารถโทรไปที่ธนาคาร เพื่อทำการอายัดและระงับบัญชีธุรกรรมได้ทันที เพราะจากเดิมจะต้องไปแจ้งตำรวจ อันนี้ก็สามารถลดเวลา และด้วยมาตรการสแกนใบหน้า ทำให้บัญชีม้าจากเดิมที่สามารถโอนเงินได้เต็มวงเงิน แต่พอมีมาตรการสแกนใบหน้า ทำให้ไม่สามารถโอนเงินได้เต็มวงเงิน โดยโอนได้ไม่เกิน 2 แสนบาทต่อวัน ทำให้เงินที่ค้างอยู่สามารถระงับได้ทัน และหลังมีศูนย์ AOC จะช่วยได้มากขึ้น และคาดว่าความเสียหายจากแอปดูดเงินลดลงเรื่อย ๆ”
รัฐผุดศูนย์ “AOC” อายัดฉับไว
“ภิญโญ” กล่าวว่า มองไปข้างหน้าคาดว่า แนวโน้มการตรวจจับและการอายัดธุรกรรมน่าจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากภาครัฐจะมีการตั้งศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ ที่เรียกว่า “AOC” หรือ Anti Online Scam Operation Center ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ภายในต้นเดือน พ.ย.นี้
“ศูนย์ AOC จะรวมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน จากเดิมจะระงับธุรกรรมต้องแจ้งตำรวจ แต่หลังมี พ.ร.ก. ไม่ต้องแจ้งตำรวจแล้ว แต่สามารถแจ้งไปที่ธนาคารได้เลย และเดิมธนาคาร 15 แห่ง ก็ต้อง โทร. 15 เบอร์ แต่จากนี้สามารถแจ้งไปที่เบอร์เดียว คือ 1441 ซึ่งศูนย์ AOC จะกระจายข้อมูลไปยังแต่ละธนาคาร”
จำกัดเปิดบัญชีไม่แก้ปัญหา
สำหรับข้อเสนอกำหนดให้เปิดบัญชีธนาคารเพียง 1 บัญชี เพื่อสกัดการเปิดบัญชีม้านั้น “ภิญโญ” มองว่า การจำกัดบัญชีต่อคน ไม่ได้เป็นการสกัด หรือแก้ปัญหาโดยตรงเรื่องบัญชีม้า เพราะแม้ว่าจะเปิดบัญชีหลายบัญชีก็ตาม แต่เวลาขายจะต้องขายคู่กับบัญชีโมบายแบงกิ้ง และเมื่อตรวจจับเจอว่าเป็นบัญชีม้า แม้ว่าจะมี 10-20 บัญชี บัญชีเหล่านั้นก็ถูกระงับทันที
“ดังนั้น คิดว่าการจำกัดบัญชีอาจจะไม่ได้ตรงมาก ธปท.จึงเลือกออกมาตรการจำกัดจำนวนโมบายแบงกิ้งต่อคนแทน รวมถึงมาตรการของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หากตรวจจับบัญชีม้าได้ 1 ราย จะมีการส่งรายชื่อให้ทุกธนาคาร ทำให้บุคคลดังกล่าวที่มีบัญชีธนาคารทุกแห่งจะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้”
มิจฉาชีพดิ้นหากลโกงใหม่ ๆ
สำหรับวิธีการหลอกลวงใหม่ ๆ “ภิญโญ” กล่าวว่า จะเห็นว่าวิธีการส่งสัญญาณมือถือปลอม (False Base Station) หรือปลากระเบน เริ่มไม่มีให้เห็นแล้ว หลังจากตำรวจมีการตรวจจับ แต่วิธีการใหม่ที่เริ่มเห็น เช่น ปลอมเป็นเบอร์ โทร.ของธนาคาร ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่เบอร์ของธนาคาร โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุยกับสำนักงาน กสทช. ในการหาวิธีการป้องกันอยู่
รวมถึงภายในสิ้นปี 2566 ธปท.ให้ทุกธนาคารมีระบบป้องกันธุรกรรมผิดปกติแบบเรียลไทม์ ซึ่งมีบางธนาคารเริ่มทยอยใช้ คาดว่าจากมาตรการทั้งหมดจะช่วยป้องกันแบบครบวงจร ทั้งนี้ ธปท.ก็ยังคงต้องติดตามรูปแบบการหลอกลวงอย่างใกล้ชิด
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
Chairman: Mr. Suwit Indrachalerm (Bangkok Bank Public Company Limited)
Coordinator: Mr. Suphawat Maseng
Objectives: This club is established with the approval of its members to carry out corporate social responsibility (CSR) activities consistent with the operations of the Thai Bankers’ Association as follows
This will close in 500 seconds
Chairman: Ms. Suteera Sripaibulya (Bangkok Bank Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Sampantanee Apaipan
Objectives: This club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Mr. Than Siripokee (Bangkok Bank Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Supada Ruttanapong
Objectives: This club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Mr. Paisarn Lertkowit (Bangkok Bank Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Kristsanee Disapad
Objectives: This club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Mr. Kittichai Singha (Bank of Ayudhya Public Company Limited)
Coordinatior: Ms. Chutiporn Jiranansuroj
Objectives: This club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Pongpichet Nananukool (Kasikorn Bank Public Company Limited)
Coordinator: Mr. Warat Attanandana
Objectives: This club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Mr. Kitipong Muttamara (Krungthai Bank Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Manisa Rueangsri
Objectives: This club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Mr. Atis Ruchirawat Ayudhya Capital Services Co., Ltd.
Coordinator: Ms. Apsorn Suttaroj
Objectives: This club is established
This will close in 500 seconds
Acting Chairman: Mr. Settarat Na-Nakorn (Kasikorn Bank Public Company Limited)
: Ms. Suchanee.lavanavanija (Bangkok Bank Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Monruedee Teerarungruang
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Mr. Thitivorn Chothayaphorn (Bank of Ayudhya Public Company Limited)
Coordinator: K. Jitti Wijitbanjong
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Mr. Prathin Kijjaruwankul (Kiatnakin Phatra Bank Public Company Limited)
Coordinator: Mr. Thammanun Harnprasitkam
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Ms. Oranuch Nampoolsuksan (Bangkok Bank Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Roongratt Ratanarajchartikul
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Dr. Phacharaphot Nuntramas (Krungthai Bank Public Company Limited)
Coordinator: Dr. Chamadanai Maknual
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Ms. Pornvalai Kulrojseth (Krungthai Bank Public Company Limited)
Coordinator: -
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Ms. Puntipa Hannoraseth (Bank of Ayudhya Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Tippawan Bannajirakul
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Ms. Waranee Wanrat (TMBThanachart Bank Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Sunisa Netsawang
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Acting Chairman: Ms. Jeerana Ramasoot (Bangkok Bank Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Natchanok Aryukong
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Dr. Vasin Udomratchatavanich Bank of Ayudhya Public Company Limited
Coordinator: Ms. Manduan Aeambunapong
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Mr. Sant Thaosuwan (Bank of Ayudhya Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Wasunthree Tri-utok
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
Chairman: Mr. luesak Sukasem (Krungthai Bank Public Company Limited)
Coordinator: Ms. Nipaporn Daokhanon
Objectives: The Club is established
This will close in 500 seconds
ธรรมาภิบาล(Governance) : มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี และดำเนินการกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิผลในระดับคณะกรรมการ โดยกำหนดภาระและขอบเขตความรับผิดชอบที่ชัดเจนในระดับการจัดการในเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
This will close in 500 seconds
ยุทธศาสตร์ (Strategy) : บูรณาการพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เข้ากับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจและกำหนดกรอบด้านการเงินที่ยั่งยืน โดยสนับสนุนเพื่อให้ประเทศสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้อย่างราบรื่น
This will close in 500 seconds
การบริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG Risk Management) : ผนวกรวมประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ไว้ในกระบวนการบริหารความเสี่ยง
This will close in 500 seconds
ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน(Financial Products) : ปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน รวมทั้งนวัตกรรมทางการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน
This will close in 500 seconds
การสื่อสาร (Communication) : สื่อสารและประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนในการสร้างจิตสำนึกสาธารณะด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
This will close in 500 seconds
การเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน (Disclosure) : พัฒนาระบบการติดตามและการรายงานที่สอดคล้องกับกรอบการกำกับดูแลของประเทศไทยและมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนในระดับสากล
This will close in 500 seconds
3 เรื่องต้องรู้ก่อนเข้าร่วมมาตรการปิดจบ หนี้เรื้อรัง
**สามารถขอออกจากมาตรการได้ แต่จะไม่ได้รับสิทธิแก้หนี้ตามเงื่อนไขเดิม**
3 เรื่องต้องรู้ หากจ่ายขั้นต่ำบัตรกดเงินสดนาน ๆ
แบบไหนเข้าข่ายปัญหาหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt - PD)
1. แม้ภาระต่อเดือนไม่สูง แต่ใช้เวลานาน กว่าจะหมดหนี้
2. ยอดขั้นต่ำที่จ่ายแต่ละเดือนเป็นดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น
3. เมื่อผ่อนจบพบว่ายอดรวมที่จ่ายไปส่วนใหญ่คือ ดอกเบี้ย
อยากหมดหนี้ไว ㆍจ่ายดอกเบี้ยลดลง ㆍ ภาระต่อเดือนไม่เพิ่มจากเดิม
เลือกเข้ามาตรการปิดจบหนี้เรื้อรังได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
หมายเหตุ : ลูกหนี้ที่เข้าข่ายเป็นหนี้รื้อร้ง จะได้รับการติดต่อจากเจ้าหนี้ โดยหาก 5 ปีที่ผ่านมา ลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นรวม จะได้รับข้อเสนอปิดจบหนี้ภายใน 5 ปี ดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี
ตัวอย่าง
ใช้บัตรกดเงินสด
วงเงินหมุนเวียน 15,000 บาท
ผ่อนขั้นต่ำ (3%) มาแล้ว 5 ปี
เหลือจ่ายเงินต้นอีก 8,700 บาท
ทางเลือกที่ 1 : ผ่อนขั้นต่ำต่อไปจนครบ ดอกเบี้ย 25% ต่อปี ผ่อนต่ออีก 13 ปี 5 เดือน
เหลือจ่ายดอกเบี้ยอีก 14,000 บาท
ดอกเบี้ยรวมทั้งสัญญา 29,000 บาท
ทางเลือกที่ 2 : เข้าโครงการแก้หนี้เรื้อรัง ดอกเบี้ย 15% ต่อปี ผ่อนต่ออีก 3 ปี 6 เดือน (เดือนละ 260 บาท)
เหลือจ่ายดอกเบี้ยอีก 2,500 บาท
ดอกเบี้ยรวมทั้งสัญญา 17,500 บาท
*ประหยัดดอกเบี้ยได้ 11,500 บาท*
หมายเหตุ: ผ่อนเดือนละ 260 บาท เท่ากับยอดการผ่อนขั้นต่ำ ณ เดือนสุดท้ายของปีที่ 5 ก่อนเข้าโครงการ
ตอบข้อสงสัย มาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง
(1) ทำไมมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง ไม่รวมหนี้บัตรเครดิต?
(2) ทำไมต้องมีเงื่อนไขปิดวงเงินหากเข้าร่วมมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง
(3) การเข้ามาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง จะมีการรายงานข้อมูลในเครดิตบูโร (NCB) หรือไม่
ทำไมมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง ไม่รวมหนี้บัตรเครดิต?
เพราะหนี้บัตรเครดิตมี (1) อัตราดอกเบี้ย และ (2) เงื่อนไขการผ่อนชำระที่ทำให้ไม่เข้าข่ายหนี้เรื้อรังที่จ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นและใช้เวลานานในการปิดจบ
ลูกหนี้บัตรเครดิตจ่ายขั้นต่ำที่ 8% ทำให้จ่ายชำระเงินต้นมากกว่าดอกเบี้ย ลูกหนี้สามารถปิดจบหนี้ได้ภายในระยะเวลาไม่นานนัก
บัตรกดเงินสดมักจ่ายขั้นต่ำที่ 3% และดอกเบี้ยส่วนใหญ่อยู่ที่ 25% ต่อปี ซึ่งจะทำให้ ตัดจ่ายดอกเบี้ย 2% และตัดเงินต้นเพียง 1%
ทำไมต้องมีเงื่อนไขปิดวงเงินหากเข้าร่วมมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง
เงื่อนไขการปิดวงเงินจะช่วยให้ลูกหนี้มีวินัยทางการเงินเพิ่มขึ้นและสามารถปิดจบหนี้ได้ภายใน 5 ปี
อย่างไรก็ดี กรณีลูกหนี้ที่เข้ามาตรการฯ มีความจำเป็นฉุกเฉิน เช่น เจ็บป่วย ได้รับอุบัติเหตุ ตกงาน ผู้ให้บริการอาจพิจารณาให้สินเชื่อได้ หากลูกหนี้มีความสามารถในการชำระหนี้เพียงพอ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายและเงื่อนไขของผู้ให้บริการแต่ละแห่ง
กรณีลูกหนี้มีบัตรกดเงินสดมากกว่า 1 ใบ สามารถเลือกเข้าโครงการแค่บางบัตร และเก็บวงเงินบัตรกดเงินสดที่เหลือไว้ก่อนได้
การเข้ามาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง จะมีการรายงานข้อมูลในเครดิตบูโร (NCB) หรือไม่
จะมีการรายงานข้อมูลใน NCB โดยเพิ่มการรายงานประเภทของสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ "รหัส (code) 03" โดยจะไม่กระทบสถานะบัญชีลูกหนี้ที่ยังเป็น 10-ปกติ เช่นเดิมทั้งนี้ การรายงานนี้ จะช่วยให้ผู้ให้บริการทราบถึงการเข้าโครงการซึ่งสะท้อนความตั้งใจที่ดีในการแก้ปัญหาหนี้ของลูกหนี้
มาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง..ช่วยเหลือลูกหนี้อย่างไร?
ถ้าได้รับแจ้งเตือนว่าเป็นลูกหนี้เรื้อรัง (severe PD) จะได้รับข้อเสนอให้สมัครเข้าร่วมมาตรการเพื่อปิดจบหนี้ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมมาตรการ ดังนี้
** สำหรับลูกหนี้ที่เริ่มเรื้อรัง (general PD) ให้รีบติดต่อเจ้าหนี้หากต้องการแก้หนี้ เจ้าหนี้จะมีแนวทางให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมเป็นรายกรณี **
การแจ้งเตือนเมื่อเข้าข่ายลูกหนี้เรื้อรัง
ความถี่การแจ้งเตือนจากเจ้าหนี้
ช่องทางการแจ้งเตือน
โดยลูกหนี้เรื้อรังจะได้รับข้อเสนอแนวทางการปิดจบหนี้จากเจ้าหนี้ด้วย
หนี้เรื้อรัง คืออะโร.. แค่ไหนที่เรียกว่าเรื้อรัง?
แบบไหนเข้าข่ายปัญหาหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt - PD)
ลูกหนี้เรื้อรัง 2 แบบ
1. เริ่มเป็นหนี้เรื้อรัง (general PD)
2. เป็นหนี้เรื้อรัง (severe PD)
** ธปท. กำหนดเกณฑ์รายได้ เพื่อมุ่งให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่เดือดร้อนที่สุดก่อน โดยพิจารณาความเรื้อรังและรายได้ที่ไม่สูงมากของลูกหนี้ **
ทวงหนี้อย่างเป็นธรรม ต้องแจ้งข้อมูลสำคัญอะไรบ้าง
เจ้าหนี้จะต้องแจ้งรายละเอียดของภาระหนี้พร้อมข้อมูลสำคัญอื่น ๆ แก่ลูกหนี้ให้ครบถ้วน เช่น
และห้ามเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ก่อน ยกเว้น ลูกหนี้ล้มละลายหรือติดต่อไม่ได้
#ResponsibleLending #แก้หนี้ยั่งยืน #เจ้าหนี้รับผิดชอบ #ลูกหนี้มีวินัย
มีหนี้กับหลายเจ้าหนี้จะทำอย่างไร?
เคยปรับโครงสร้างหนี้แล้วขอปรับซ้ำได้ไหม?
หมายเหตุ: เกณฑ์ Responsible Lending ลูกหนี้มีสิทธิขอปรับโครงสร้างหนี้ ก่อนเป็นหนี้เสีย อย่างน้อย 1 ครั้ง และหลังเป็นหนี้เสีย อย่างน้อย 1 ครั้ง โดยนับรวมการปรับโครงสร้างหนี้ก่อน 1 ม.ค. 67
สัญญาณปัญหาหนี้
สัญญาณว่าลูกหนี้กำลังมีปัญหา เช่น จ่ายขั้นต่ำ จ่ายช้า กดบัตรเงินสดมาจ่ายคืนหนี้อื่น รายได้ไม่พอรายจ่าย ถ้าเห็นสัญญาณแบบนี้ไปคุยกับเจ้าหนี้ได้เลย !!
หมายเหตุ: สนใจติดต่อ Call center และสาขาของธนาคารที่ท่านใช้บริการ