เงินบาทเปิดแข็งค่า 35.56 บาท คาดเศรษฐกิจส่งสัญญาณดีขึ้นหลังราคาน้ำมันโลกปรับตัว
เงินบาทเปิดแข็งค่า 35.56 บาท คาดเศรษฐกิจส่งสัญญาณดีขึ้นหลังราคาน้ำมันโลกปรับตัว
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.56 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.77 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยโดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.45-35.65 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทอาจแกว่งตัวผันผวนในกรอบ sideways จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบทิศทางเงินบาท อย่างไรก็ตาม ช่วงระหว่างวันเงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ รวมถึงแรงซื้อหุ้นไทยสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ และแรงซื้อบอนด์ระยะสั้นของนักลงทุนต่างชาติบางส่วนที่เริ่มกลับเข้ามาเก็งกำไรการแข็งค่าของเงินบาทอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เงินบาทอาจไม่ได้แข็งค่าขึ้นเร็วไปมากนัก เนื่องจากผู้นำเข้าบางส่วนอาจรอทยอยซื้อเงินเหรียญสหรัฐในจังหวะที่เงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ทำให้เงินบาทอาจมีแนวรับใหม่ในโซน 35.40-35.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนโซนราคา 35.80-36.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อาจเป็นโซนแนวต้านใหม่ของเงินบาทในช่วงนี้ ซึ่งเราเริ่มเห็นผู้ส่งออกต่างรอขายเงินเหรียญสหรัฐในช่วงดังกล่าวพอสมควร รวมถึงผู้เล่นต่างชาติที่รอทยอยเพิ่มสถานะการเก็งกำไรเงินบาทแข็งค่าในโซนดังกล่าว
สำหรับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของไทยประเมินว่า แนวโน้มการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นต่อเนื่อง กอปรกับภาระค่าใช้จ่ายของผู้คนด้านพลังงานที่ลดลงตามการปรับตัวลงของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนกรกฎาคม อาจช่วยหนุนให้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพลิกกลับมาปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 41.8 จุด ในเดือนกรกฎาคมได้
ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Market) ระบุว่า ค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.40-35.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากการอ่อนค่าลงของเงินเหรียญสหรัฐ ในขณะที่นักลงทุนรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันพุธนี้ ขณะที่ค่าเงินเยนอยู่ที่ 135.00 ต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนค่าเงินยูโรอยู่ที่ 1.0195 ต่อเหรียญสหรัฐ ในช่วงท้ายตลาด ดัชนีเงินเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบตะกร้าเงินปรับตัวลงในรอบ 10 วันลงมาที่ 106.93 ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงในวันจันทร์ โดยคาดการณ์ว่ามีโอกาส 69% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายนนี้ ทั้งนี้ ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนปรับตัวลงเช่นกัน
ที่มา: www.matichon.co.th
